วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ปลาเก๋าและปลาหมอทะเล...วินิจ รังผึ้ง





   ใต้ท้องทะเลนั้นนอกจากจะมีปลาพยาบาลแล้ว ก็ยังมีปลาหมอทะเลอีกด้วยครับ ซึ่งปลาหมอทะเลนั้นเป็นปลาขนาดใหญ่ที่ได้ชื่อว่าเป็นปลากระดูกแข็งที่ใหญ่ที่สุดใต้ท้องทะเลเลยทีเดียว เพราะเมื่อโตเต็มที่อาจจะมีความยาวได้ถึงกว่า 2 เมตร หนักถึงประมาณ 400 กิโลกรัมเลยทีเดียว ซึ่งนับเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่และน่าเกรงขามในใต้ท้องทะเล
     แต่บางคนอาจจะแย้งว่าแล้วปลาใหญ่อย่างฉลามวาฬ ปลากระเบนราหูที่มีขนาดใหญ่กว่า มีน้ำหนักเป็นตันล่ะจะไม่ใหญ่กว่าปลาหมอทะเลหรือ ก็ต้องยอมรับว่าปลาทั้ง 2 ชนิดนั้นอาจจะมีขนาดใหญ่กว่าปลาหมอทะเลครับ แต่เจ้ายักษ์ใหญ่ใต้ท้องทะเลทั้ง 2 ชนิดทั้งปลาฉลามวาฬและปลากระเบนราหูนั้นเป็นปลาตระกูลฉลามและกระเบนซึ่งเป็นปลากระดูกอ่อน ไม่ใช่ปลากระดูกแข็ง ดังนั้นเจ้าปลาหมอทะเลจึงครองแชมป์เป็นปลากระดูกแข็งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใต้ท้องทะเล

                                       
                                          ปลาเก๋าทอด(ภาพจาก Internet)
       แม้นบางคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับปลาหมอทะเลเพราะเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ และชอบอาศัยอยู่ตามใต้ท้องทะเลลึก ใต้ผาหิน เพิงถ้ำใต้น้ำ แต่หากจะบอกว่าแท้ที่จริงแล้วปลาหมอทะเลนั้นไม่ใช่อื่นไกล แต่เป็นปลาในตระกูลเดียวกับปลาเก๋า หรือปลากะรังที่มีมากมายหลากหลายในท้องทะเล และหลาย ๆ ท่านก็อาจจะคุ้นเคยกับรูปร่างหน้าตาของปลาในตระกูลนี้และบางท่านก็อาจจะคุ้นลิ้น เพราะเป็นปลาที่เนื้อมีรสชาติอร่อย เนื้อแน่นหวาน ผู้คนนิยมนำมาทำอาหารไม่ว่าจะเป็นข้าวต้มปลาเก๋า ปลาเก๋าต้มยำ ปลาเก๋าราดพริก ปลาเก๋าสามรส ปลาเก๋าจึงนับเป็นปลายอดนิยมระดับต้น ๆ เลยทีเดียว
       
                                                  ต้มยำปลาเก๋า(ภาพจาก Internet)
       ปลาเก๋า หรือปลากะรัง ( Groupers )นั้นนับเป็นปลาที่มีความหลากหลายของสายพันธุ์ มีขนาดตั้งแต่ลำตัวยาว 50 เซนติเมตรไปจนถึงตัวขนาดใหญ่เกือบ 3 เมตรเลยทีเดียว อีกทั้งปลาในกลุ่มนี้ยังรวมเอาปลาทอง (Basslets หรือ Anthias ) ที่มีขนาดเล็กจิ๋ว มีสีสันสวยงามลำตัวขนาดยาว 6-10 เซนติเมตรเข้าไปด้วย นั่นจึงทำให้มันเป็นครอบครัวที่มีเครือญาติมากมายในท้องทะเล โดยอาศัยอยู่ตั้งแต่น้ำกร่อยตามปากแม่น้ำ ป่าชายเลน ผืนทรายใต้น้ำใกล้ชายฝั่ง ลงไปจนถึงแนวปะการัง กองหิน ถ้ำใต้ทะเลลึก ตามซากเรือจม หรือกองวัสดุใต้ท้องทะเล เป็นปลาที่กินอาหารเก่ง กินตั้งแต่ กุ้ง หอย ปู ปลา หรือสัตว์น้ำที่มีขนาดเล็กกว่าเป็นอาหาร โดยปลาในกลุ่มปลาเก๋าหรือปลาหมอทะเลนั้นสามารถจะเปลี่ยนเพศได้ โดยสามารถจะเปลี่ยนเพศจากปลาเพศเมียเป็นปลาเพศผู้ได้เมื่อมันโตเต็มที่ ซึ่งความสามารถในการเปลี่ยนเพศได้ก็เป็นคุณสมบัติที่ช่วยให้ปลาในกลุ่มนี้สามารถจะดำรงความหลากหลายของสายพันธุ์และจำนวนของสมาชิกให้คงอยู่คู่กับท้องทะเลได้ยาวนานจนถึงปัจจุบัน




ด้วยเป็นปลาที่มีรูปร่างอ้วนป้อมแข็งแรงบึกบึน มีลักษณะโครงสร้างของกระดูกที่แข็งแกร่ง มีปากใหญ่ ขากรรไกรกว้าง มีฟันขนาดเล็กละเอียดจำนวนมากอยู่ในปาก ปลาในกลุ่มปลาเก๋าและปลาหมอทะเลจึงกินอาหารด้วยการอ้าปากดูดฮุบเหยื่อด้วยแรงมหาศาล โดยจะทำการกลืนเหยื่อเข้าไปทั้งตัว และเป็นปลาที่กินอาหารเก่ง เรียกว่ากินไม่ค่อยเลือกขอให้เป็นเหยื่อที่มีขนาดเล็กกว่าที่เหมาะสมกับการฮุบกลืนลงไปในคอ ด้วยคุณสมบัติของการกินอาหารเก่ง โตเร็ว ทนทานต่อสภาพแวดล้อม และเป็นปลาที่ผู้คนนิยมบริโภค จึงมีการนำลูกปลาเก๋าขนาดเล็กที่จับได้ ไปเลี้ยงต่อในกระชัง ซึ่งเมื่อให้อาหารไม่กี่เดือนก็จะได้ปลาเก๋าที่มีขนาดประมาณ 400-600 กรัม ซึ่งเป็นขนาดพอดีจานอันเป็นขนาดที่ตลาดกำลังต้องการและได้ราคาดีที่สุดเพื่อนำส่งขายตามภัตตาคารหรือร้านอาหารทะเล
       สำหรับนักดำน้ำแล้วปลาในตระกูลปลาเก๋านั้นนับเป็นปลาที่นักดำน้ำคุ้นเคย เพราะสามารถจะพบเห็นได้ในทุกหนทุกแห่งของแหล่งดำน้ำเลยก็ว่าได้ โดยกลุ่มที่มีสีสันที่สุดก็น่าจะเป็นกลุ่มปลาทองที่มีตั้งแต่สีชมพูสด สีส้ม สีแดง สีม่วง ซึ่งมักจะอาศัยอยู่กันเป็นกลุ่มนับร้อย ๆ ตัวตามกอปะการังโครงสร้างแข็ง ส่วนปลาเก๋าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยและพบเห็นได้มากมายในท้องทะเลบ้านเรานั่นก็คือเจ้าปลากะรังแดงจุดน้ำเงิน (Coral rockcod) ซึ่งเป็นปลาเก๋าที่มีสีสันสดใสโดดเด่นและมีมากในแหล่งดำน้ำทางฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งในแหล่งดำน้ำของประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงอย่าง มาเลเซีย อินโดนีเซีย ก็ยังมีให้เห็นไม่มากเหมือนบ้านเรา นอกจากนั้นก็จะเป็นปลาเก๋าที่สีสันไม่ค่อยสดใสนัก โดยส่วนใหญ่จะออกไปในโทนสีน้ำตาล มีลายจุด หรือลายดอกเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้สีสันบนลำตัวของมันกลมกลืนกับสีสันของสภาพแวดล้อมในแนวปะการังเช่นปลากะรังลายนกยูง ปลากะรังลายตุ๊กแก กะรังลายเส้นขาว เป็นต้น
       

       ส่วนปลาเก๋าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกโดยมีขนาดลำตัวยาวเกิน 2 ฟุต อย่างปลาเก๋าดอกดำ ปลาเก๋าดอกหมาก ปลาเก๋ายักษ์ ซึ่งปลาเก๋าขนาดใหญ่ ๆ เหล่านี้หลาย ๆ คนก็เรียกมันว่าปลาหมอทะเล ซึ่งบางตัวก็มีขนาดใหญ่ มีความยาวเกิน 1 เมตร ชอบอาศัยอยู่ตามใต้เพิงหิน หรือในโพรงถ้ำ ตามซากเรือจมในพื้นที่ ๆ มีแสงน้อย ซึ่งปลาหมอทะเลขนาดใหญ่เหล่านี้เป็นที่สนใจของนักดำน้ำเป็นอย่างยิ่ง
       ปลาเก๋าและปลาหมอทะเลนั้น ไม่ว่าจะมีขนาดเล็ก หรือมีขนาดใหญ่ก็มักจะมีนิสัยรักสงบ อาศัยอยู่เป็นที่เป็นทาง และมักจะหวงถิ่น โดยหากมีปลาอื่นว่ายเวียนเข้าไปในพื้นที่อยู่อาศัย ก็มักจะถูกขู่ไล่โดยการลอยตัวนิ่ง ๆ ปักหลักทำท่ากางครีบกางเหงือกให้พองโตน่าเกรงขามเป็นการข่มขู่และเป็นสัญญาณเตือนว่า “อย่ารุกล้ำเข้ามานะ” ซึ่งการลอยตัวนิ่ง ๆ เพื่อเป็นการข่มขู่ หรือการว่ายช้า ๆวนไปวนมาในพื้นที่อยู่ประจำของมันเพื่อประกาศอาณาเขตนั้น นับเป็นช่วงเวลาที่ดียิ่งของช่างภาพใต้น้ำที่จะยกกล้องรอคอยกดชัตเตอร์ในช่วงเวลาที่ได้จังหวะงดงาม ในขณะที่ปลาหมอทะเลขนาดใหญ่ลำตัวยาวกว่า 1 เมตร รูปร่างอ้วนตันราวกับตอร์ปิโดนั้นนับเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจเมื่อยามได้พบเห็น ยิ่งบางตัวที่มีความคุ้นเคยกับนักดำน้ำจนยอมให้นักดำน้ำว่ายเข้าไปใกล้ เข้าไปถ่ายภาพได้อย่างใกล้ชิดชนิดที่เอากล้องจ่อได้ด้วยแล้ว ยิ่งนับเป็นเพื่อนใต้ทะเลที่น่ารักยิ่งนัก
     
  
       ด้วยความเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่และเชื่องต่อผู้คน อีกทั้งว่ายน้ำเชื่องช้าหรือชอบลอยตัวนิ่งๆอยู่กับที่ ปลาหมอทะเลขนาดใหญ่จึงเป็นที่นิยมของบรรดาสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำทั้งหลายที่กำลังฮิตอยู่ในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะมีขนาดใหญ่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวแล้ว ปลาหมอทะเลเหล่านี้ยังทนทานต่อสภาพแวดล้อม เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย กินอาหารเก่ง โตเร็ว อายุยืนและสามารถจะเพิ่มขนาดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว นั่นจึงทำให้มีคำสั่งซื้อจากบรรดาสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำทั้งหลายเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็มีชาวประมงบางรายทดลองนำลูกพันธุ์ปลาหมอทะเลที่จับได้จากลอบดักปลาหรืออวนจับปู มาเลี้ยงในกระชังใช้เวลาเลี้ยงปีกว่า ๆ ก็จะได้ปลาหมอทะเลที่มีขนาด 10 -15 กิโลกรัม สามารถจะส่งขายเป็นปลาเลี้ยงโชว์ได้ ซึ่งก็เป็นนับเรื่องที่น่าห่วงใยสำหรับเพื่อนตัวใหญ่ใต้ทะเลของผม เพราะนอกจากจะต้องคอยเอาตัวรอดจากการล่าไปแขวนตามร้านข้าวต้มปลา ร้านอาหารทะเลแล้ว วันนี้ก็ยังต้องคอยหนีเอาตัวรอดจากบรรดาสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำอีกทางหนึ่งด้วย...



ขอขอบคุณที่มาของภาพและบทความ:
www.manager.co.th :29 กุมภาพันธ์ 2555 16:39 น.




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น